วันจันทร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2562

กันตรง : โรงเรียนกล้ารักษ์โลกและรักควายด้วย | HUG HOUSE [สุขนี้ที่บ้านเรา]

สุรินทร์ – โรงเรียนเล็กปลูกสร้างกล้าชีวิตสืบสานปณิธานรักษ์โลกด้วยมือเรา

ระบบการศึกษาไทยในยุคปัจจุบัน ที่เรียกว่า การศึกษาในยุคศตวรรษที่ 21 ที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาให้ได้ผลดี ทำให้เกิดการแข่งขันผ่านกระบวนการทางวิชาการที่ลงมาสู่ผู้เรียนโดยตรง โดยมีนโยบายจากเบื้องบนลงมาให้ผู้บริหารเขต สั่งการมากำกับ กำชับผู้บริหารสถานศึกษาและคณะครูอีกทอด แต่ทว่านโยบายต่าง ๆ กลับถูกเรียกได้ว่านโยบายรายวัน รายเดือน รายปีการศึกษา หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงก็จะเปลี่ยนกันไปอีกระลอก และนโยบายเหล่านี้ก็ถูกจัดการให้ครอบคลุมทุกหย่อมหญ้าไม่เว้นโรงเรียนใหญ่โตหรือโรงเรียนเล็ก ๆ จากชายขอบ

ภายใต้การศึกษาที่แข่งขันกันสูงอยู่นั้น ก็ยังมีโรงเรียนขนาดเล็กอีกไม่น้อย ที่ปรับตัวและมีกิจกรรมเด่นที่สร้างขึ้นด้วยบริบทของชุมชน สร้างผลงานจนเป็นทีประจักษ์ด้วยมุมมองของผู้บริหารสถานศึกษา คณะครูและผู้นำชุมชนที่เล็งเห็นความสำคัญของลูกหลานตัวเอง

หนึ่งในบรรดาโรงเรียนเล็ก ๆ เหล่านั้น นั่นก็คือ “โรงเรียนบ้านกันตรง” ตำบลบึง อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ แห่งนี้ ที่มีนักเรียนเพียง 76 คน เป็นโรงเรียนที่มีบริบทของชุมชนชาติพันธุ์ชาวกวยของสุรินทร์ พ่อแม่ทำนาเลี้ยงควายเป็นหลัก

พิณี หาสุข ครูใหญ่ เล่าว่า “ผมเป็นคนเกิดที่หมู่บ้านนี้ ย้ายมาเป็นครูใหญ่ได้สิบปีแล้ว การจัดการศึกษาก็เหมือนโรงเรียนทั่วไปทุกประการ แต่สิ่งที่สำนึกร่วมกันนั่นคือ ต้องไม่ลืมรากเหง้าวิถีของพ่อแม่ของผู้คนที่นี่ด้วย นั่นคือ วิถีเกษตร ผมจึงนำทักษะเหล่านี้มาให้เด็ก ๆ ได้ซึมซัมและเรียนรู้ไปด้วยกันเลย ไม่ว่าจะเป็นการดำนา การทำเกษตร แม้กระทั่งเรื่องควาย  ๆ และสิ่งที่สำคัญคือการสร้างให้ลูกหลานได้เรียนรู้ความรับผิดชอบ การมีคุณธรรม เป็นต้นกล้าที่มีคุณภาพในอนาคต ผมพาพวกเขาเพาะพันธุ์กล้าไม้ โดยไปเก็บเมล็ดกล้าไม้มาจากที่ต่าง ๆ ที่มี และมอบให้ผู้ปกครองบ้าง มอบให้วัดบ้าง มอบให้หน่วยงานต่าง ๆ บ้าง รวมถึงพากันปลูกในที่สาธารณะและตามหัวไร่ปลายนาของชาวบ้าน และทำแบบนี้มาหลายปี”
พิณี หาสุข / ครูใหญ่โรงเรียนบ้านกันตรง จังหวัดสุรินทร์

ไม่ใช่เพียงแค่เป็นแนวคิดของผู้บริหารท่านนี้เท่านั้น ท่านยังพาลงมือทำมาร่วมสิบปีแล้ว และสิ่งที่ตามมาที่เห็นเป็นที่ประจักษ์คือ อาคารเรียนหลังสีเขียวที่ได้จากการเริ่มต้นของต้นเงินนั่นคือ การขายกล้าพันธุ์ไม้นั่นเอง และมีการระดมทุนจากศิษย์เก่ารวมถึงมีเอกชนร่วมบริจาคมา ใช้อาคารเรียนว่า “อาคารรักษ์สิ่งแวดล้อม” นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ของโรงเรียนเล็ก ๆ
ความร่วมมือของชุมชนก็เป็นส่วนสำคัญไม่น้อย เพราะทุกกิจกรรมที่โรงเรียนออกแบบไว้นั้น ล้วนเป็นผลพลังของการใส่ใจชุมชนด้วย ไม่ว่าจะเป็นชุมชนหรือวัดเองก็ให้ความสำคัญด้วยดีมาตลอด โดยเฉพาะกิจกรรมเกี่ยวกับเกษตรจะถูกใช้คำว่า “พ่อขุด แม่ปลูก ลูกดูแล” เสมอ แม้จะดูเป็นคำเชย ๆ แต่ผู้บริหารสถานศึกษาจะใช้กลยุทธนี้ในการดึงชุมชนเข้าร่วมหล่อหลอมทำสิ่งดีงามในการจัดการศึกษาให้กับลูกหลานได้เป็นอย่างดี

ส่วนการศึกษาของที่นี่ ผลสัมฤทธิ์ก็อยู่แนวหน้าในระดับเขตพื้นที่การศึกษา และผลการเรียนของนักเรียนที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกประการ
นี่เพียงส่วนหนึ่งของโรงเรียนเล็ก ๆ ที่อยู่ในชนบท ที่มีแนวโน้มจะถูกควบรวมยุบไปสู่โรงเรียนขนาดที่ใหญ่กว่า ในรูปแบบแนวคิดของคนเบื้องสูง แต่สิ่งดีงามชุมชนจะสูญไปไหมหากเป็นเช่นนั้นจริง อาคารเรียนที่มาจากพลังของชุมชน ลูกหลานที่นี่เขาไม่ดีพอกระนั้นแล้วใช่ไหม แล้วโรงเรียนขนาดใหญ่ที่จะไปรวมกันนั้นเขาพร้อมที่รับเด็ก ๆ ลูกหลานจากโรงเรียนเล็ก ๆ อื่น ๆ แล้วหรือไม่
เป็นคำตอบที่รอการพิสูจน์
แต่กระนั้นก็ตาม ที่นี่โรงเรียนบ้านกันตรง อำเภอเขวาสินรินทร์ จังหวัดสุรินทร์ โรงเรียนขนาดเล็ก มีของดี มีกิจกรรมดี ๆ กว่าโรงเรียนขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง มีดีกว่าแนวคิดที่จะถูกควบรวมหรือยุบทิ้งไม่น้อยอย่างแน่นอน

เรื่อง-ภาพ โดย ขวัญชิต โพธิ์กระสังข์
17 ก.ย. 62

(ขอบคุณภาพบางส่วนจาก โรงเรียนบ้านกันตรง)









ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ทุ่งกะบาลกะไบแห่งเทือกเขาพรมแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่เปิดแห่งใหม่เหมาะกับนักเดินทางและนักประวัติศาสตร์

“บุญ” ต้องฟรี วัดไตรสามัคคี’ จ.ศรีสะเกษ ติดป้ายชัดเจน ทำบุญที่นี่ “ฟรี” ไม่เสียตังค์ [มีคลิป]

ที่วัดไตรสามัคคี ต.โดด อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ เป็นวัดท่องเที่ยวเชิงพุทธอีกแห่งของจังหวัดศรีสะเกษ ที่กำลังเป็นที่นิยมในการทำบุญของพุทธศา...