วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2563

ตระหนักถึงโทษบุหรี่ ผุดสภาเยาวชนจุดประกายฝันดี ดับนักสูบหน้าใหม่สู่ชุมชนน่าอยู่กุดประทาย | HUG HOUSE [สุขนี้ที่บ้านเรา]


อุบลราชธานี – สภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย อำเภอเดชอุดม สร้างความตระหนักให้ชุมชนเห็นพิษภัยของการสูบบุหรี่ขับเคลื่อนจนมีบุคคลต้นแบบเลิกบุหรี่ได้ และก่อเกิดสภาเด็กเยาวชนกุดประทาย-กุดเจริญ ร่วมหนุนเสริมเป็นพลังแห่งอนาคตเพื่อไม่ให้มีนักสูบหน้าใหม่ขึ้นมา

ที่บ้านกุดประทาย หมู่ที่ 5 ต.กุดประทาย อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี คืออีกหนึ่งหมู่บ้านที่มีการขับเคลื่อนกิจกรรมชุมชนโดยผ่าน “สภาผู้นำชุมชน” ที่มาจากผู้อาสาจะพัฒนาชุมชนของตัวเองให้ดีขึ้น และทำงานขับเคลื่อนด้านสุขภาพในหลากหลายมิติ หลายประเด็น โดยเกิดกฎ กติกา ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ที่ได้ระดมความคิดร่วมกันเพื่อความชุมชนให้น่าอยู่ และในปีที่ผ่านมานี้ ได้ขับเคลื่อนประเด็นสุขภาพเรื่องการลด ละ เลิกบุหรี่

นายเศรษฐวุฒิ กลิ่นบัว ประธานสภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย / ผู้ใหญ่บ้านกุดประทาย กล่าวว่า “ผมเองเป็นนักสูบบุหรี่ตัวยงคนหนึ่ง ที่สูบมาตั้งแต่ปี 2528 จวบถึงปี 2562 ร่วม 35 ปี และตัดสินใจเลิกมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2562 เป็นต้นมาถึงปัจจุบันเลยและจะเลิกตลอดไป ด้วยเห็นว่าผมเองเป็นประธานชุมชน เป็นฟันเฟืองหลักหนึ่งในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ ต้องทำให้ชุมชนเห็นถึงความตั้งใจจริงของเราและสภาผู้นำชุมชนด้วย และจะต้องเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับชุมชนและลูกหลานของเราด้วย”
เศรษฐวุฒิ กลิ่นบัว ประธานสภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย


นายอินทร์แปลง บำเพ็ญ สภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย กล่าวว่า “ตัวพ่อเองสูบบุหรี่มาตั้งแต่อายุ 18 ปี ช่วงที่สูบหนักมากที่สุดคือวันละ 2 ซอง ช่วงระยะหลัง ๆ รู้สึกตัวเองได้ว่าเหนื่อยง่ายและไอบ่อย ประกอบกับที่ทางชุมชนได้มีกิจกรรมเรื่องการลด ละ เลิกบุหรี่เข้ามาพอดี และอีกอย่างเพราะโดนคนรอบข้างโดยเฉพาะครอบครัวบ่นประจำ เลยได้ตัดสินใจเลิกเลย ตอนนี้อายุ 78 ปีแล้วสุขภาพร่างกายแข็งแรง คนรอบข้างก็ไม่บ่นแล้ว รู้สึกสบายหูขึ้นเยอะเลย ซึ่งในยามว่าง ก็พากันในนามผู้สูงอายุมาจักสานไม้ไผ่เป็นเครื่องใช้ไม้สอยจำพวก สุ่มขังไก่ ตะกร้า หวดนึ่งข้าวเหนียว และอื่น ๆ อีกมากมาย”
นอกจากจะเป็นหนึ่งในสภาผู้นำชุมชนแล้ว ยังเป็นปราชญ์ผู้รู้ของชุมชนที่เป็นบุคคลต้นแบบในหลาย ๆ ด้านรวมถึงการลด ละ เลิกบุหรี่ได้ด้วย
วาที วรรณประภา เลขานุการสภาผู้นำชุมชนกุดประทาย


อีกหนึ่งในผลลัพธ์ที่สภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย ได้ขับเคลื่อนขึ้นมาพร้อม ๆ กับการขับเคลื่อนเรื่องสุขภาพนั่นคือ การก่อเกิดสภาผู้นำเด็กและเยาวชนบ้านกุดประทาย-กุดเจริญ หรือที่เรียกว่า “สภาเด็กเยาวชนกุดประทาย-กุดเจริญ” ที่มาจากการเห็นความสำคัญของลูกหลานในชุมชนเอง โดยไม่ได้ถูกจัดตั้งขึ้นโดยองค์กรท้องถิ่นแต่อย่างใด โดยมีกิจกรรมที่ทำร่วมกันมาตลอดเป็นประจำอยู่เป็นเดิมทุนอยู่แล้ว

นายวาที วรรณประภา เลขานุการสภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย กล่าวว่า “สภาผู้นำชุมชนเราเอง เห็นความสำคัญของสภาเด็กเยาวชนเรา ซึ่งเด็กเยาวชนบ้านเรามีการรวมตัวกัน 2 หมู่บ้านคือ บ้านกุดประทาย หมู่ที่ 5 และบ้านกุดเจริญ หมู่ที่ 15 เราจึงอยากเปิดพื้นที่ให้เขาได้แสดงออกและทำกิจกรรมที่เขาได้มีส่วนร่วมของชุมชนด้วย โดยในช่วงปิดภาคเรียนแบบนี้ ก็ได้พากันมาเรียนรู้วิถีวัฒนธรรมและการจักสานไม้ไผ่กับผู้สูงอายุ รวมถึงมีการรณรงค์ร่วมกับชุมชนเดินเคาะประตู บอกกล่าวถึงพิษภัยของบุหรี่ ร่วมกับสภาผู้นำชุมชนด้วย”

ด้าน น.ส.วาทินี วรรณประภา รองประธานสภาเด็กเยาวชนกุดประทาย-กุดเจริญ กล่าวว่า “การมีสภาเด็กเยาวชนทำให้เราได้มาพบปะ พูดคุยและทำกิจกรรมร่วมกัน ได้รู้ว่าเราทำอะไรได้บ้างและได้ทำเพื่อบ้านเกิดของเราด้วย ซึ่งปกติที่ชุมชนมีงานเราก็มามีบทบาทส่วนร่วมอยู่แล้ว เช่น การจัดสถานที่ การเสิร์ฟอาหาร การรำในงานต่าง ๆ แต่พอมีสภาเด็กเยาวชนขึ้นทำให้เรามีบทบาทและมีพื้นที่ให้เราได้ทำงานร่วมกับชุมชน เช่น วันนี้ที่ชุมชนเดินรณรงค์ เราและสภาเด็กเยาวชนก็มีส่วนร่วมด้วยและได้เรียนรู้เรื่องจักสานเพิ่มเติมด้วยคะ”
วาทินี วรรณประภา รองประธานสภาเด็กเยาวชนกุดประทาย

ไม่ใช่เพียงขับเคลื่อนงานด้านสุขภาพอย่างเดียว แต่ยังมีการขับเคลื่อนเรื่องราวดี ๆ ขึ้นในชุมชนของตัวเองด้วย โดยเฉพาะการก่อตั้งสภาเด็กและเยาวชนที่มาความเข้มแข็งของชุมชนเองเช่นนี้ก็มีให้เห็นไม่มากนักเลย
และผลลัพธ์ที่ตามมาในการขับเคลื่อนประเด็นหลักคือ การลด ละ เลิกบุหรี่ในปีที่ผ่านมานั้น มีบุคคลที่เลิกบุหรี่ได้ 3 คน และลดบุหรี่ได้ 6 คนจากจำนวนคนที่สูบจริง 39 คน และจากการประเมินชุมชนโดยวัดจากผู้ร่วมเวทีอบรมให้ความรู้เรื่องโทษบุหรี่พบว่า ชาวบ้านตระหนักถึงพิษภัยบุหรี่ร้อยละ 60 เนื่องจากมีการประชาสัมพันธ์และมีการอบรมให้ความรู้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สภาผู้นำชุมชนยังแบ่งบทบาทหน้าที่ให้สมาชิกสภาผู้นำชุมชน 1 คน ดูแลเพื่อนบ้าน 3 คนที่สูบบุหรี่หรือมีความเสี่ยงในการสูบบุหรี่ จึงทำให้ชุมชนเกิดความตระหนักมากขึ้น โดยในปัจจุบันนี้เกิดกติกาอย่างไม่เป็นทางการ 3 ข้อ คือ 1) ห้ามมีการสูบบุหรี่ในที่ชุมชุมชนที่มีคนจำนวนมาก ถ้าอยากสูบต้องเดินหนีห่างจากเพื่อนอย่างน้อย 5 เมตร 2) ห้ามร้านค้าแบ่งบุหรี่เพื่อจำหน่าย และ 3)ห้ามมีการสูบบุหรี่ในกรณีที่ชุมชนมีการทำกิจกรรม

นี่คงเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่เข้มแข็งที่ขับเคลื่อนและทำกิจกรรมเพื่อสุขภาพที่ดี เพื่อนำไปสู่ความเป็นชุมชนน่าอยู่ต่อไป

ที่นี่คือ สภาผู้นำชุมชนบ้านกุดประทาย ตำบลกุดประทาย อำเภอเดชอุดม จังหวัดอุบลราชธานี


เรื่อง/ ภาพ : ขวัญชิต โพธิ์กระสังข์













วันศุกร์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2563

“เมืองคง” เล่นเปลี่ยนโลก | HUG HOUSE [สุขนี้ที่บ้านเรา]


การศึกษาในยุคนี้ที่เรียกว่า ยุคศตวรรษที่ ๒๑  เป็นการเรียนรู้ให้ทันกับยุคสมัยและเทคโนโลยี มีมุมมองให้กว้างให้ทันกับโลก จังหวัดศรีสะเกษ จัดว่าเป็นจังหวัดหนึ่งที่ขับเคลื่อนนวัตกรรมการศึกษาในมุมมิติต่าง ๆ  ทั่วทั้งจังหวัด

โรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา) อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ และเครือข่าย เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้เน้นช่วงวัยและการเรียนรู้แบบสนุกสนานที่มาจากการเล่น อันจะนำไปสู่การคิดแบบเป็นระบบ เกิดทักษะทางการคิด และนำไปสู่การใช้ได้ในชีวิตจริง โดยกิจกรรมดังกล่าวนี้ เรียกกันว่า “เล่น เปลี่ยน โลก”
การเล่นเกิดมาพร้อมกับมนุษย์ การเล่นคือวัฒนธรรม การเล่นคือสารตั้งต้นในการวางแผน ออกแบบสร้างสรรค์และจินตนาการของมนุษย์ การเล่นเกี่ยวข้องกับคนทุกคน และการเล่นไม่มีจำกัดวัย และวันนี้กิจกรรมถูกออกแบบการเล่นด้วยฝีมือนักเรียนเอง เพราะการเล่นมันสำคัญ เราจึงเอาการเล่นนี้ไปเข้าสู่การคิด วางแผน จินตนาการ เชื่อมโยงกับโลกในยุค Infinity ที่เราเรียกกันว่า เล่นเปลี่ยนโลก เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก และการจัดกิจกรรมการเล่นนี้ ที่เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ มีเป้าหมายคือการสร้างลูกหลานของพวกเราให้เป็นพลเมืองที่ดี เป็นพลังของบ้านเมืองที่ดี การเล่นนี้ก็คือหนึ่งในวิธีการจัดการเรียนรู้แบบหนึ่งคำถามพันคำตอบ และไม่ต้องยึดโยงในห้องสี่เหลี่ยม ที่พวกเราเชื่อและศรัทธามาตลอดเสถียร พันธ์งาม ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา) กล่าวเปิดกิจกรรมและให้แง่คิดต่อผู้ร่วมกิจกรรมกว่า ๕๐๐ คน ที่มีนักเรียน ผู้ปกครองภายในอำเภอราษีไศลและโรงเรียนเครือข่ายที่สนใจ
เสถียร พันธ์งาม / ผู้อำนวยการโรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา)

ความสนุกสนานถูกเปิดการเล่นโดยผู้อำนวยการฯ
      ในกิจกรรมดังกล่าว มีการจัดคล้ายเป็นฐานการเรียนรู้ ที่มีการออกแบบการเล่นที่แตกต่างกันออกไป อาทิ ฐานเครื่องดนตรีจากวัสดุอุปกรณ์ในครัวเรือน ฐานแต่งแต้มด้วยสีน้ำ ฐานแต่งแต้มด้วยสีที่ได้จากใบไม้และธรรมชาติรอบตัวเรา ฐานการประดิษฐ์ด้วยวัสดุหลากหลายขนาด ฐานการเล่นน้ำ ฐานการแต่งตัว ฐานบ้านสนุก ฐานการแต่งชุดเป็นอาชีพที่ตัวเองชอบ ฐานอาหารที่ต้องทำเอง ฐานปีนป่ายไต่เชือก ฐานเครื่องดนตรีพื้นบ้าน และยังมีอีกหลายฐานที่ไม่ได้จำกัดให้เด็กนักเรียนต้องเล่น ให้ครบทุกฐาน แต่เปิดโอกาสให้ได้เล่นและออกแบบการเล่นได้ตามความชอบของแต่ละคน สังเกตได้ถึงสีหน้าความสนุกสนานของแต่ละคนที่บ่งบอกได้ถึงความสุข และฐานไหนที่มีความอันตรายก็จะมีผู้ปกครองคอยดูแลและคอยแนะนำ แต่ละฐานจะมีนักเรียนที่ชอบไม่เหมือนกัน ซึ่งที่เห็นและสนุกกันอย่างมากคือฐานการเล่นน้ำที่ได้ถูกออกแบบเหมือนการเล่นสไลเดอร์ลงอ่างน้ำ ลื่น เลอะ เลาะ และมีฐานการแต่งหน้าทาปากจะมีนักเรียนชายที่สนใจมาออกแบบความสวยงามของตัวเองได้ด้วย และฐานอาหารพื้นบ้าน จำพวก ตำส้มตำ และเมี่ยงคำอาหารถิ่น รวมไปถึงก๋วยเตี๋ยว ก็มีนักเรียนแวะเวียนมาลงมือประกอบอาหารด้วยตนเองไม่ขาดสาย

ครูหนูทิพย์ พันธ์งาม / ผู้อำนวยการชั้นเรียนโรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา)
      “กิจกรรมการเล่นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนที่เป็นนวัตกรรมของโรงเรียนเรา นั่นก็คือ Friday is a fly day หรือวันศุกร์คือวันโบยบิน เรามาประยุกต์ให้เด็กได้สนุกสนานและได้มีความสุขจากการเล่นของลูก ๆ นักเรียนเรา และการเล่นแต่ละอย่างนั้น เขาก็ออกแบบเองได้ด้วย โดยจะมีผู้อำนวยการชั้นเรียนหรือผู้อำนวยการการเล่นที่เป็นผู้ปกครองคอยให้กำลังใจ และการที่เด็กได้เล่นแล้วเขามีความสุขตามความชอบของเขา จะทำให้เขามีการพัฒนาทักษะความคิด พัฒนาสมองของเขาได้ดี” หนูทิพย์ พันธ์งาม / ผู้อำนวยการชั้นเรียนโรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา) กล่าว

      ในขณะที่นักเรียนสนุกสนานกับการเล่นของเขาอยู่นั้น คณะครูและผู้ปกครองที่เป็นเครือข่ายที่มาร่วมกิจกรรม ได้ถอดบทเรียนร่วมกันเกี่ยวกับการเล่นในครั้งนี้ด้วย
คุณครูศศิธร หวะสุวรรณ / ครูโรงเรียนเพียมาต (รัฐราษฎร์พิทยาคาร) ผู้ร่วมกิจกรรม
“เห็นแววตาความสนุกสนานตามวัย เห็นความเป็นผู้ใหญ่ในตัวเขาที่ได้ออกแบบการเล่นของเขาเอง และบางการเล่นที่ต้องช่วยกันทำเขาก็ช่วยกันดีไม่มีการเกี่ยงงอนกัน เหมือนเขาได้เข้าใจกับการเล่นและเป็นการเสริมทักษะทางด้านสมองของเขาได้ดีเลย” ศศิธร หวะสุวรรณ   / ครูโรงเรียนบ้านเพียมาต (รัฐราษฎร์พิทยาคาร) อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ หนึ่งในโรงเรียนเครือข่ายที่มาร่วมกิจกรรมเล่าถึงความสนุกสนานในแววตาของนักเรียน
ครูนกยูง ปานุเวช / ครูโรงเรียนบ้านครั่ง นำผู้ปกครองมาร่วมกิจกรรมด้วย
“แอบไปถามนักเรียนที่เล่น ๆ กันอยู่แล้ว เขาสามารถบอกและเล่าถึงสิ่งที่เขาเล่นและสนุกอยู่คืออะไร มีรูปแบบอย่างไรและทำอย่างไร ได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน นี่ล่ะคะคือการเรียนรู้โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย และวันนี้ก็พาผู้ปกครองนักเรียนมาร่วมดูกิจกรรมของนักเรียนที่นี่ด้วย ผู้ปกครองที่มาด้วยก็ชอบใจมากเลย สิ่งแบบนี้สามารถเอาไปปรับใช้ได้ในชีวิตจริงของเราได้ และสามารถเอาไปจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่โรงเรียนของคุณครูได้ด้วย จะนำสิ่งที่ได้ในวันนี้ไปเสนอผู้บริหารและคณะครูให้ทำแบบนี้ดู ชอบมากค่ะแบบนี้” นกยูง ปานุเวช / ครูโรงเรียนบ้านครั่ง อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ กล่าว
เสริมศรี คูคำ ผู้อำนวยการเล่นแห่งโรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา)
ความรู้สึกอบอุ่นที่ได้เห็นรอยยิ้มแห่งความสนุกสนานแบบนี้ มีไม่บ่อยนัก เช่นเดียวกับความรู้สึกของผู้ปกครองนักเรียนแห่งนี้ที่มีตำแหน่งถึงผู้อำนวยการเล่น กล่าวว่า “กิจกรรมแบบนี้ดีมาก ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยแบบนี้ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับลูกหลานในชีวิตประจำวันได้เลย ซึ่งมีหลายอย่างให้เด็ก ๆ ได้เล่นกันทั้งได้ออกแบบการวาดรูป ออกแบบการเล่นสีจากธรรมชาติพวกใบไม้มาทำเป็นสี หรือการเล่นทราย เล่นดิน เล่นน้ำ เล่นดนตรี รวมไปถึงการทำอาหารด้วยตัวเขาเอง เด็ก ๆ แต่ละคนสนุกสนานมากเลย สิ่งเหล่านี้ทำให้เขาได้เรียนรู้ดีมาก และบางอย่างนั้น ยายเองก็ไม่รู้เหมือนกัน ได้หลานมาบอกถึงวิธีการทำด้วยซ้ำ จึงรู้สึกได้ถึงวิวัฒนาการการเรียนการสอนของที่โรงเรียนเราพาทำแบบนี้ และถึงจะสนุกสนานอย่างไร ก็ยังอยากให้โรงเรียนพัฒนาการเรียนทางวิชาการควบคู่ไปด้วยอย่างเช่นปัจจุบันนี้ และก็ให้กำลังใจและขอบคุณผู้บริหาร คณะครู ผู้ปกครองทุกคนที่ให้ความสำคัญกับการเล่นควบคู่กับการเรียนแบบนี้” เสริมศรี คูคำ วัย ๕๕ ปี  ผู้อำนวยการเล่นและเป็นผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนเมืองคง(คงคาวิทยา) อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ

กิจกรรมดังกล่าวนี้ โรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา) ได้รับงบประมาณสนับสนุนหลักจาก มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) ให้ทางโรงเรียนได้ขับเคลื่อนตามเป้าหมายที่โรงเรียนเห็นความสำคัญของการศึกษาในยุคนี้
และนี่ ก็คงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งของการจัดการศึกษาที่เป็นรูปแบบของ ๓๖๐ องศา บนการเรียนรู้มุ่งสู่การเป็นพลเมืองประชาธิปไตย โดยจังหวัดศรีสะเกษเป็นหนึ่งในพื้นที่นำร่องในการจัดการศึกษาในหลากหลายรูปแบบในยุคที่เรียกว่า ยุคศตวรรษที่ ๒๑ ที่ไม่ได้เพียงการเน้นเทคโนโลยีหรือความก้าวหน้าแห่งยุคสมัยเกินไป แต่ยังอยู่บนฐานความจริงที่เด็กนักเรียนควรเรียนรู้ ควรสนุกสนานอันเป็นทักษะสำคัญในการพัฒนาสมองและการนำไปใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี
ที่นี่คือ โรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา) อำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ



เรื่อง/ ภาพ : ขวัญชิต โพธิ์กระสังข์
.












ทุ่งกะบาลกะไบแห่งเทือกเขาพรมแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่เปิดแห่งใหม่เหมาะกับนักเดินทางและนักประวัติศาสตร์

“บุญ” ต้องฟรี วัดไตรสามัคคี’ จ.ศรีสะเกษ ติดป้ายชัดเจน ทำบุญที่นี่ “ฟรี” ไม่เสียตังค์ [มีคลิป]

ที่วัดไตรสามัคคี ต.โดด อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ เป็นวัดท่องเที่ยวเชิงพุทธอีกแห่งของจังหวัดศรีสะเกษ ที่กำลังเป็นที่นิยมในการทำบุญของพุทธศา...