วันอังคารที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2562

[มีคลิป] ศรีสะเกษ’ สำโรงใหญ่ วัดเก่าแก่แห่งอำเภอประจิม อายุกว่า 200 ปีที่มีประวัติศาสตร์และตู้พระธรรมไม้โบราณไม่เคยถูกเปิดเผย | HUG HOUSE [สุขนี้ที่บ้านเรา]


เมืองเก่าแก่ยุคแรกของศรีสะเกษ ที่มีของของดีอายุในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ที่ถูกลืม


เรื่อง-ภาพ โดย ขวัญชิต โพธิ์กระสังข์




อีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับฟังข้อมูลแล้วถึงกับอึ้งว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นบ้านเก่าเมืองแก่โบราณกว่า 200 ปีและมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ควรค่าแก่การศึกษาและบันทึกเอาไว้
ที่แห่งนี้คือ วัดสำโรงใหญ่ หมู่ที่ 1 ตำบลสำโรง อำเภออุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ มีพื้นที่ประมาณ 8 ไร่เศษ ๆ สันนิษฐานว่าก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2360 (ตามบันทึกหน้าซุ้มประตูวัดสลักตัวเลขเอาไว้) และเป็นวัดประจำอำเภอ

ในอดีตนั้นเรียกว่าอำเภอประจิม และเปลี่ยนมาเป็นอำเภออุทุมพิไสย ก่อนจะเปลี่ยนเป็น อุทุมพรพิสัยในปัจจุบัน ซึ่งเป็นหนึ่งในหกอำเภอของจังหวัดศรีสะเกษในขณะนั้น อำเภอนี้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2454 และตั้งอยู่ที่บริเวณบริเวณสำโรงใหญ่แห่งนี้นี่เอง ก่อนจะย้ายที่ว่าการอำเภอไปตั้งอยู่ที่แห่งใหม่ห่างไปทางทิศใต้ประมาณ 3 กิโลเมตร คือ บ้านตำแย หมู่ที่ 7 ตำบลกำแพง ในปี 2491 จวบจนปัจจุบัน
วัดสำโรงใหญ่ ปัจจุบันมีท่านอาจารย์พระมหาขุนทอง เขมสิริ เป็นเจ้าอาวาส และมีพระภิกษุ 7 รูปและสามเณรอีก 1 รูป
เป็นวัดที่มีบริบทที่งดงามที่บ้านเรือนรอบรอบติดกับถนนหลักเส้นอุทุมพร-ราษีไศลมีเสนาสนะครบทุกประการ  มีกุฏิไม้หลังเก่า มีศาลาการเปรียญไม้หลังเก่า มีหอระฆัง มีอุโบสถที่มีพระประธานโบราณ รวมถึงมีสระน้ำ เป็นทำเลที่งดงามสมกับเป็นวัดเก่าแก่ของศรีสะเกษแห่งหนึ่งเลย

พระมหาขุนทอง เขมสิริ เจ้าอาวาสวัดสำโรงใหญ่ เล่าให้ฟังว่า “วัดเราเป็นวัดเก่าแก่โบราณมาก อดีตเจ้าอาวาสเป็นนักปกครอง เป็นเกจิอาจารย์ เป็นถึงเจ้าคณะอำเภอมาแล้ว เดิมทีจะมีหอพระไตรปิฎกตั้งอยู่กลางสระน้ำ เสามีรูปสลักพญานาค 8 ตัว ปัจจุบันไม่มีแล้ว ได้กลายเป็นสระน้ำสำหรับใช้สอยของชาวบ้าน และมีตู้พระธรรมไม้โบราณอายุกว่า 200 ปี 2 ตู้ จึงได้นำตู้พระธรรมไม้มาเก็บรักษาไว้ที่หอพระข้างอุโบสถแทน ซึ่งมีลวดลายที่สลักงดงาม มีภาพเขียนสีฝุ่นแบบจิตรกรรมฝาผนังไทยโบราณ เป็นลวดลายพันธุ์พฤกษา และที่สำคัญกว่านั้น พระประธานในอุโบสถ เรียกกันว่า หลวงพ่อนาค ถูกนำมาประดิษฐานไว้หลังการสร้างอุโบสถเรียบร้อยแล้ว สร้างเสร็จแล้วสลักชื่อไว้ฐานด้านหลังว่า สร้างเมื่อ 13 กรกฎาคม 2492 รูปพรรณสัณฐานเหมือนพระภาคกลางมากกว่าจะเป็นพระแบบอีสาน ส่วนต้นจันทร์นั้นก็มีอายุมากกว่า 100 ปีก็ยังคงอยู่...ชาวบ้านสำโรงใหญ่ บ้านโนนหาญหก บ้านหนองเมย บ้านขนวน และบ้านหนองแคนได้เข้ามาทำบุญมิได้ขาดโดยการนำของผู้นำหมู่บ้านและส่วนราชการ และมีประเพณีสำคัญที่ยังรักษาไว้คือการตักบาตรกรวยในวันเข้าพรรษาของทุกปี”


     และนี่ไง ความอบอุ่นบนสิ่งดีงาม ประวัติศาสตร์ที่ควรแก่การศึกษา บันทึกเอาไว้ให้คงอยู่ เรื่องราวดี ๆ เหล่านี้ยังมีให้เรียนรู้อีกมากมาย หรือข้อมูลที่มีอาจจะไม่สมบูรณ์นัก สามารถเพิ่มเติมช่วยกันได้นะครับ ในรูปแบบ ฮักเฮา สุขนี้ที่บ้านเรา
#ฮักเฮา
#สุขนี้ที่บ้านเรา
#Hug-House
#HugHouse





















วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2562

[มีคลิป] สำนึกรักษ์บ้านเกิดฯ ย้ำชัดโรงงานน้ำตาลควรอยู่ที่อื่นที่เหมาะสม | HUG HOUSE [สุขนี้ที่บ้านเรา]



กลุ่มสำนึกรักษ์บ้านเกิดจังหวัดศรีสะเกษ ย้ำจุดยืนเดิมต่อรองผู้ว่าราชการจังหวัด ไม่เอาโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล แนะควรไปตั้งที่เหมาะสมพร้อมเสนอแนวทางความยั่งยืนของเกษตรในพื้นที่


 เรื่อง-ภาพ โดย ขวัญชิต โพธิ์กระสังข์

18 ธันวาคม 2562 กลุ่มสำนึกรักษ์บ้านเกิดจังหวัดศรีสะเกษ ร่วม 500 คน นั่งเสื่อรอต้อนรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อรับฟังข้อเสนอและข้อเรียกร้องรวมถึงทางเลือกที่คนในพื้นที่ต้องการในกรณีโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่ศาลาการเปรียญวัดบ้านตาจวน ตำบลสำโรงพลัน อำเภอไพรบึง จังหวัดศรีสะเกษ

นายเอกลักษณ์ โพธิสาร กรรมการกลุ่มสำนึกรักษ์บ้านเกิดจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า “ทางกลุ่มฯได้ทำหนังสือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้ลงพื้นที่ศึกษาสภาพจริงในพื้นที่ที่คาดว่าจะมีการก่อตั้งโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวลนั้น วันนี้ได้มีรองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษพร้อมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่แทน ซึ่งทางกลุ่มได้นำเสนอข้อมูลบริบทพื้นที่จริง และข้อเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนที่เหมาะสมกับพื้นที่ อันได้แก่พลังงานธรรมชาติ จำพวก โซล่าลูป โซล่าเซลล์ เป็นต้น ส่วนโรงงานน้ำตาลก็ควรไปจัดตั้งในพื้นที่ที่มีวัตถุดิบอ้อยอยู่”

ด้านนายปิยะนารถ เหมือนมาตย์ ชาวบ้านพยอม ตำบลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า “จากกรณีการแบน 3 สารพิษ ซึ่งมีทั้งผู้เห็นด้วยและผู้คัดค้าน และเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือชาวไร่อ้อย ข้อมูลจากข่าว ซึ่งหมายความว่า คนที่ปลูกอ้อยจะต้องใช้สามสารพิษเป็นอย่างมาก และมันก็ไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ของจังหวัดเรา ที่เรามีการส่งเสริมการปลูกพืชที่หลากหลาย ถ้าเราส่งเสริมการปลูกอ้อยในพื้นที่ การใช้สารเคมีจำนวนมากก็จะตามมา”

เมื่อทางกลุ่มฯ ได้นำเสนอข้อมูลข้อเท็จจริงของพื้นที่และนำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนของชุมชนแล้ว หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด พลังงานจังหวัด โยธาจังหวัด ศูนย์ยุติธรรมจังหวัด รวมไปถึงท้องถิ่นและท้องที่อย่าง นายอำเภอไพรบึง และปลัดเทศบาลตำบลสำโรงพลัน ผลัดกันนำเสนอบทบาทที่ตัวเองเกี่ยวข้อง
หลังจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื่นที่ไปดูสถานที่จริงว่าอยู่ใกล้ชุมชนสักเพียงไหน

นายธงชัย เจริญพานิชย์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า “ดีแล้วล่ะที่เรารวมตัวกันและบอกกล่าวกัน อยากจะยกพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่เก้าว่า การพัฒนาคือการสร้างสรรค์ ทำให้ดีขึ้น สร้างสรรค์ขึ้นแต่ต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน พวกเราทำถูกแล้ว สิ่งหนึ่งที่ท่านย้ำคือ ที่ดินของเกษตกรเรา ท่านไม่อยากให้เปลี่ยนมืออยากให้รักษาไว้เป็นมรดกไว้ให้ลูกหลาน เราเป็นเกษตกรต้องรักในความเป็นเกษตร และผมก็รับเรื่องของพวกเราเอาไว้ หลังจากนี้ให้ทำหนังสือที่ทางกลุ่มฯ รวบรวมประเด็นข้อเสนอและข้อเรียกร้องรวมถึงข้อเสนอแนะที่ยั่งยื่นที่นำเสนอในวันนี้ยื่นหนังสืออีกครั้งเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย”

ด้านนางสุจิตรา วงษ์พินิจ ชาวบ้านพยอม ต.โพธิ์กระสังข์ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า “บรรยากาศวันนี้เป็นกันเองมาก รู้สึกอบอุ่นแบบบ้าน ๆ เราให้เรามั่นใจในการขับเคลื่อนของกลุ่มเราต้องไปต่อ รู้สึกได้มีพลังและมีทิศทางในการก้าวไปข้างหน้าขึ้น ซึ่งเราสัมผัสได้ ชาวบ้านเราเป็นกันเองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เป็นกันเอง ชาวบ้านเริ่มเข้าใจมากขึ้นถึงผลกระทบกับวิถีชีวิตของเราจริง ๆ”

     เพราะนี่คือ พลังการรวมตัวกันของกลุ่มสำนึกรักษ์บ้านเกิด ที่ต้องการปกป้องทรัพยากรของตัวเอง บนสิ่งที่ชุมชนไม่ต้องการโรงงานน้ำตาลและโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่บ้านของเรา  ฮักเฮา ความสุขที่บ้านเรา
#ฮักเฮา
#สุขนี้ที่บ้านเรา
#Hug-House
#HugHouse













ทุ่งกะบาลกะไบแห่งเทือกเขาพรมแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่เปิดแห่งใหม่เหมาะกับนักเดินทางและนักประวัติศาสตร์

“บุญ” ต้องฟรี วัดไตรสามัคคี’ จ.ศรีสะเกษ ติดป้ายชัดเจน ทำบุญที่นี่ “ฟรี” ไม่เสียตังค์ [มีคลิป]

ที่วัดไตรสามัคคี ต.โดด อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ เป็นวัดท่องเที่ยวเชิงพุทธอีกแห่งของจังหวัดศรีสะเกษ ที่กำลังเป็นที่นิยมในการทำบุญของพุทธศา...